filler

วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

แชร์ประสบการ์ณ....จากผู้ที่เคยฉีดฟิลเลอร์จมูกแบบปลายหยดน้ำ

เมื่อเดือนที่ผ่านมาทาง ได้เข้าร่วมMakeover
เป็นการทำครั้งแรกในชีวิตที่เจอแบบหนักๆแบบนี้ ทั้งฉีดฟิลเลอร์ อัลเทอร่า
ร้อยไหม ฉีดโบท็อก ทุกอย่างภายในวันเดียว! 



ภาพแรก -ก่อนทำ รีเควสคุณหมอไปว่าอยากเพิ่มช่วงปลายจมูกให้โด่งและ
ยาวลงมาสักนิด หน้าจะได้ไม่ดูแบนแต๊ดเกินไป TT...
ภาพสอง -หลังทำ30นาที จมูกดูแข็งๆเป็นแท่งๆตามแบบในรูปเลย เป็นแบบ
นี้อยู่ประมาณ3วัน วันถัดไปก็จะดูซอฟเป็นธรรมชาติ
ภาพสาม -หลังทำ12วัน เริ่มรู้สึกเริ่มเข้าที่เข้าทาง ขยับได้บีบจมูกเล่นได้อยู่


ช่วงแรกเราจะทายาชาทั้งหน้าเลย เพราะว่าทำหลายอย่าง แต่ถ้าแค่จมุก
ก็จะโบ๊ะยาชาแค่ช่วงจมูกเท่านั้น คุณหมอเริ่มฉีดไล่จากสันลงมา บีบๆปั้นๆ
เหมือนดินน้ำมันก้อนนึงขนจมูกTT ยังไม่รุ้สึกเจ็บอะไรมากมายเท่าไหร่
...........
แต่พอฉีดปลายจมูกเท่านั้นแหล่ะค่ะ ย้ำว่าเจ็บพอตัวเลย น้ำตาไหลพรากๆ
เพราะตรงนั้นส่วนใหญ่เป็นเส้นประสาท คุณหมอบอกเจ็บเป็นเรื่องปกติ!

 

หลังทำได้เสร็จก็จะมีแท่งเย็นๆมาประคบเอาไว้ พอกลับมาหลังสัก7-8ชั่วโมง
ตรงจุดที่ฉีดก็จะแดงๆบวมๆอยู่ โดยเฉพาะช่วงปลายเพราะว่าฉีดไปเยอะหน่อย




หลายคนบอกว่าบวมช้ำม่วงเขียวอะไรก็ว่าไป แต่ของเช่ไม่เป็นจะแดงๆตรงช่วงปลายเท่านั้น พี่สาวเพื่อนเช่ที่เป็นพยาบาลแนะนำว่า หลังจากทำให้นอนหนุนหมอนสูงสัก2-3วัน เลือดจะได้ไม่ไปคลั่ง เช่ก็ลองทำตามดูก็ไม่เขียวไม่ช้ำ ยาที่หมอให้เช่กินแค่2วันแล้วก็เลิก
เพราะไม่ชอบทานยา TT 

ครบ1เดือน แต่ก่อนต้องเฉดจมูก แต่ตอนนี้ไม่เฉดก็รู้สึกOK.................................................................

ฉีดสารอะไรเข้าไป?Hyaluronic acid หรือ HA เป็นfillerชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ
ได้มากกว่าน้ำหนักโมเลกุลของมันถึงพันเท่า และมีลักษณะเป็นเนื้อเจล
มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ได้หลายอย่าง เช่นเติมเต็มริ้วรอย หลุมสิว ร่องแก้ม
ทำให้บริเวณนั้นเต็มขึ้น HAจะค่อยๆถูกmetabolize ในร่างกายสลายออกไป

อยู่ได้นานเท่าไหร่?คุณหมอบอกเช่12เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแล ทานน้ำให้เยอะๆ หลังจาก6เดือน
มันก็จะค่อยๆยุบไปเองตามกระบวนการธรรมชาติ

แล้วต่างจากซิลิโคนทำจมูกยังไง?

ซิลิโคน

ข้อดี - ราคาถูกกว่า ทำครั้งเดียวอยู่ถาวรได้นานไม่ต้องคอยเติม ทำปลายหยดน้ำได้
ต้องดูฝีมือการเหลาของหมอ หรือเอากระดูกหลังหูมาเพิ่มปลายเอา
ข้อเสีย - ถ้าเป็นซิลิโคนราคาถูกความยืดหยุ่น ความเเป็นธรรมชาติก็จะหายไป มีแผล
เพราะต้องผ่าตัด ดังนั้นต้องใช้เวลาพักฟื้นนานพอสมควรกว่าจะเข้ารูป

ฟิลเลอร์
ข้อดี - ไม่ต้องผ่าตัด ระยะการพักฟื้นน้อยกว่าแบบซิลิโคน จะมีแค่แผลจากรอยเข็ม
ไม่กี่วันก็หาย ได้ความเป็นธรรมชาติมากกว่า บิด/ดึง/งอจมูกได้ 
ข้อเสีย - ราคาสูงกว่าและไม่อยู่ถาวร 7-8เดือนก็ควรเติมเพิ่มถ้ายังพอใจในรูปทรงนั้น
คิดเฉลี่ยแล้วราคาสูงกว่าซิลิโคนแน่นอน เกิดพังผืด ถ้าเช่จะไปทำแบบ
ซิลิโคน ของเช่จะกลายเป็นเคสงานแก้ทันที สรุปง่ายๆสลายไปไม่หมดนั่นเอง

จะทำแบบซิลิโคนหรือฉีดฟิลเลอร์ดี?ถ้าคุณมีเป็นคนมีเนื้อจมูกเยอะ แนะนำทำเป็นซิลิโคนดีกว่า อยากได้แบบ
ธรรมชาติปลายหยอดน้ำ ก็ต้องดูที่ฝีมือคุณหมอกับประเภทซิลิโคนที่จะทำ
แต่ถ้าคุณมีเนื้อจมูกน้อย ฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะอย่างน้อย
มันจะไม่ดูดึงจมูกรั้งออกมามากนัก ไม่เสี่ยงกับปลายจมูกจะทะลุ

บทความดีๆที่อยากให้อ่านตัดสินใจฉีด ต้องถามให้ดีว่าสารอะไร ตัวไหน และศึกษาก่อน รวมถึงปัจจัยอื่นๆ 
เช่น สถาบันนั้นๆหรือคุณหมอได้รับการรับรองไหม เคสที่แย่ก็มีเช่นในลิ้งค์  
http://gamesbbclinic.blogspot.com/2012/04/filler.html
............................................................................



สรุปโดยรวม:ส่วนตัวเช่พอใจและชอบในความเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องกังวล
หรือวิตกมากมายเวลาบีจมูก แคะจมูกก แต่ถามว่าทำต่อไหม คิดว่าไม่ดีกว่า
เพราะคิดแล้วว่ายังไงถ้าเราทำเป็นซิลิโคนซะทีเดียว แต่เลือกคุณภาพดี
และฝีมือคุณหมอ ก็น่าจะคุ้มกว่าต้องไปฉีดไปเติมเรื่อยๆ
สำหรับเช่จมูก คือสิ่งที่ถ้าคิดจะทำต้องขอคิดนานๆราคาสูงไม่เกี่ยงแต่ขอให้เข้ารูปหน้า
รูปทรงเหมาะสม คุณภาพซิลิโคนต้องดี เพราะจมูกอยู่จุดศูนกลางใบหน้า และมันโดดเด่น
โหนกแก้มสูงกรามบานยังเอาผมมาปิดมาบังได้ แต่จมูกจะเอาอะไรมาบัง
เช่คงรอให้มันสลายไปก่อน อีกสักปีนึงอาจจะกลับมารีวิวแบบซิลิโคน ใช้กระดูกอ่อน
ต่อปลายจมูก มันเป็นสิ่งที่แพลนไว้ในอนาคต แต่ไม่แน่อาจจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาเพิ่มอีกก็ได้
เพราะสมัยนี้มันเยอะไปหมด บางทีเราเองรู้สึกตามไม่ทัน ^^ 

1 ความคิดเห็น:

  1. Fantastic post, very informative. I wonder why the other specialists of this sector do not notice this. You must continue your writing. I'm confident, you have a great readers' base already!เป็นสิวที่หลัง

    ตอบลบ